The Lofts สีลม คอนโด High Rise แบบ High Ceiling ใกล้ BTS สุรศักดิ์ 430 เมตร จาก Raimon Land
ลงประกาศเมื่อ 2021-01-09
Condo The Lofts-Silom ,คอนโด เดอะ ลอฟท์ สีลม

The Lofts สีลม คอนโด High Rise แบบ High Ceiling ใกล้ BTS สุรศักดิ์ 430 เมตร จาก Raimon Land 

The Lofts Silom เป็นคอนโด High Rise ที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดของ Raimon Land ในคราวนี้นอกจากมีห้องแบบ Loft อย่างเดิมแล้ว ยังจัดตัวรูปแบบห้องพักอาศัยแบบอื่นๆให้มีความ “สูงพิเศษ” ทุกแบบเลย ขนาด Simplex ยังเริ่มต้นที่ 3 เมตร ทำเลที่ตั้งโครงการนับว่าเป็นขวัญใจผู้ปกครองโรงเรียนเอกชนย่านดังในย่านนี้อีกด้วย 

  • The Lofts Silom (เดอะ ลอฟท์ สีลม)
  • Raimonland Public Company Limited
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางรัก
  • คอนโด High Rise 37 ชั้น 1 อาคาร 268 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 7 ชั้น
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิตที่ชั้น 10-18
  • ที่จอดรถประมาณ 204 คันคิดเป็น 76% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ที่ดินประมาณ 2-0-10 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : Q4 ปี 2560
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q3 ปี 2563
  • Hybrid Ceiling Height Approx. 4.7 m. – Studio, 1 Bedroom
  • Simplex Ceiling Height Approx. 3 m.- 1 Bedroom, 2 Bedrooms
  • Duplex Ceiling Height Approx. 5.6 m. – 2 Bedrooms, 3 Bedrooms
  • Penthouse Ceiling Height Approx. 5 m.  – 4 Bedrooms
  • ฝ้าเพดานสูง (3 เมตร / 4.7 เมตร / 5.0 เมตร / 5.6 เมตร)
  • ช่วงราคา 9.14 – 99.8 ล้านบาท
  • ราคาห้องเริ่มต้นเฉลี่ยประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG 230,000 บาท/ตร.ม.

 

ทำเลที่ตั้ง
 

 

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

 

  • รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ 430 เมตร
  • โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์
  • โรงเรียน กรุงเทพคริสเตียน
  • โรงเรียน อัสสัมชัญคอนแวนต์ สีลม
  • เอ็มไพร์ ทาวเวอร์
  • อาคารสาทรธานี
  • อาคาร ITF
  • สาทร ซิตี้ ทาวเวอร์
  • ริทซ์ คาร์สตัน มหานคร
  • โรงแรม Ascott สาทร
  • โรงแรม Pullman G
  • ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่
  • ซีพีทาวเวอร์
  • จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
  • สวนลุมพินี

 

เจาะลึกตัวโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูเรื่องสภาพแวดล้อมรอบตัวโครงการกันบ้าง ตัวรูปแปลงที่ดินจะเป็นลักษณะตัวธงนะครับ ซึ่งไปขยายออกทางด้านใน ในคราวนี้เรามีการบินโดรน บนไซท์ที่ดินโครงการให้เห็นรอบๆทิศของจริงที่ความสูงประมาณ 50 เมตรด้วย มาลองดูวิวของจริงกันครับ

[1] ทิศเหนือ ที่ติดกับรั้วโครงการ จะเป็นพวกอาคารพาณิชย์และพักอาศัยสูงไม่เกิน 5 ชั้น ที่อยู่ในซอยสีลม 15 และ 17 ฝั่งนี้วิวจะค่อนข้างโล่งเคลีย

[2] ทิศตะวันออก จะเป็นส่วนชุมชนพักอาศัยทั่วไป ที่อยู่ติดกับถนนปั้น สูงเต็มที่ก็อาคาร 7 ชั้น ฝั่งนี้มองไกลๆจะเห็นตัว ดิแอดเดรสสาทร และก็ตึกมหานครด้วยนะ

[3] ทิศใต้ ส่วนที่ติดรั้วกำแพงโครงการเลย จะเป็นโชว์รูมฟอร์ดเอกสีลม ขยับไประยะกลางๆหน่อยร้อยกว่าเมตร จะเห็น The Room สาทร เยื้องๆหน่อย และก็ตัวอาคารเรียนของรร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งมีทั้งอาคารเตี้ยและสูง

 

[4] ตะวันตก ด้านหน้าเป็นถนนประมวญหน้าโครงการ ตรงข้ามกันเป็น อาคารวรวัฒน์ ที่สูง 22 ชั้น(ห่างออกไปประมาณ 60-70 ม.) และมองไประยะไกลหน่อย 200 จะเห็นตัวอาคาร Jewelry Trade

กลับมาอัพเดตกันอีกครั้งที่ไซท์ที่ดินหน้าโครงการกันครับ โดยภาพนี้เราจะเห็นทั้งส่วนของถนนทางเข้าตัวโครงการทางขวามือ และทางซ้ายมือเป็นส่วนของ Sale Office Gallery

Sale Office Gallery ที่ตั้งอยู่ติดกับถนนประมวญข้างกัน ที่แปลงนี้ยังเป็นของเจ้าของเดิมที่เป็นวังประมวญเก่านะครับ อนาคตก็จะรื้อทิ้ง แต่คงไม่ได้สร้างอาคารสูงอะไร เพราะแนวร่นไม่ได้

ตัวป้ายชื่อโครงการใครผ่านไปมาดูเห็นเด่นชัด

 

เข้ามาด้านใน เราจะเห็นถึงความสูงโปร่งด้านใน เพราะว่าอย่างที่บอก ห้องพักอาศัย ของโครงการนี้ไม่ธรรมดา จัดทุกแบบแบบเป็นเพดานสูงทั้งหมด

ที่ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ Reception จะมีชื่อของโครงการติดอยู่เป็นสี Cooper และด้านหลังตกแต่งด้วยผนังหินอ่อนขนาดใหญ่เล่นลวดลายให้มาบรรจบเข้ามุมกัน

โครงการ The Lofts Silom เป็นคอนโด High Rise สูง 37 ชั้น 1 อาคาร ที่ดินประมาณ 2-0-10 ไร่ มีจำนวนทั้งหมด 268 ยูนิต / โดยจอดรถในอาคารที่ชั้น 2-7 สามารถจอดได้ 204 คันคิดเป็น 76% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) / มีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิตที่ชั้น 10-18 / เริ่มก่อสร้างตอนเดือนพฤศจิกายน ปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ Q3 ปี 2563

โดยห้องพักอาศัยของที่นี่ จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็จะได้ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ต่างกันด้วย ได้แก่

  • High Ceiling Hybrid ขนาด 32 – 58.5 ตร.ม. [สูง 4.70 เมตร]
  • Simplex ขนาด 45.5 – 84.5 ตร.ม. [สูง 3.0 เมตร]
  • Duplex ขนาด 108.5 – 113.5 ตร.ม. [สูง 5.60 เมตร]
  • Penthouse ขนาด 358 ตร.ม. [สูง 5.0 เมตร]

จากถนนประมวญด้านหน้าโครงการ เราจะเห็นรูปแปลงของที่ดินที่เป็นลักษณะของ ธง หรือ ขวาน ที่ช่วงถนนทางเข้าจะร่นจากตัวอาคารไปประมาณ 50 เมตร

Open Garden Area หรือ Playground ที่จัด Landscape พื้นที่ด้านหน้านอกอาคารเป็นพื้นที่สีเขียว พร้อมทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ ศาลานั่งเล่นพักผ่อน

ด้านข้างอาคาร ฝั่งทิศใต้ จะมีส่วนทางเข้าไปในตัวอาคารเพื่อไปจอดรถได้ที่ชั้น 2-8 และทางเลี้ยวไปยังฝั่งด้านหลังอาคาร มีส่วนของที่จอดรถ Visitor ได้

ส่วนของที่จอดรถชั้น 2-8 ด้านหน้ามี Facade อลูมิเนียมปิดผิวตกแต่ง แต่ว่าสามารถให้แสงและลมลอดผ่านได้ ขึ้นมาที่ชั้น 9 เป็นส่วนของ Facility พื้นที่สีเขียวอย่าง Residence Garden ก็ถ้าเบื่อสวนชั้นล่างก็ขึ้นมาใช้ที่ตรงนี้ได้ แต่ว่าชั้นนี้เริ่มมีห้องพักอาศัยแล้ว

จุดเด่นของโครงการนี้ อีกอย่างคือ ช่องเหล่านี้ครับ โครงการมีการเจาะช่องตัวอาคารทั้งแนวนอน และแนวตั้ง เพื่อช่วยในเรื่องลอง Ventulation Airflow ลดความร้อนสะสมในตัวอาคาร อีกทั้งยังช่วยเรื่องอากาศถ่ายเทสะดวก

 

โดยจุดที่เจาะช่องลมแนวขวางเอาไว้ก็จะมีโซน Hybrid, Duplex และ Penthouse ส่วนของ Simplex ไม่ต้องน้อยใจไปนะครับ ยังไงก็ยังมีช่อง Void ใจกลางอาคารเพื่อให้ในส่วนของตัวลมที่วิ่งลอดผ่านทะลุถึงกันได้ทั้งหมด /  การเจาะช่องแบบนี้ ถ้าเราออกมานั่งเล่นบริเวณระเบียงห้องเรา ลมจะวิ่งผ่าน Flow อย่างสะใจแน่นอนครับ

 

ขึ้นมาที่ชั้น 34 จะเป็นส่วนของ Main Facility อย่าง Infinity Edge Pool / Jacuzzi / Sky GYM / Sky Lounge / Sky Deck / Steam

Ground Plan ซุ้มรักษาความปลอดภัยจะอยู่ตั้งแต่ติดถนนประมวญเลยนะครับ หลังจากนั้นเป็นตัวถนนที่ปลูกต้นไม้ใหญ้โอบล้อม 2 ข้างทางเอาไว้ เข้ามาจะเจอกับ Drop Off Area และพื้นที่สีเขียวกลางแจ้งขนาดใหญ่ด้านนอก ที่เป็นที่พักผ่อนหน่อนใจ เป็นสวนที่มีศาลานั่งเล่น เป็นสนามเด็กเล่นก็ได้ ในตัวอาคารชั้นแรก จะมีตัว Lobby เพดานสูง, ห้องอ่านหนังสือ และก็โถงลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และเซอร์วิส 1 ตัว  การจอดรถจะจอดภายในอาคารตั้งแต่ชั้น 2-8 นะครับ

ที่ชั้น 9 ก็เป็ส่วนชั้นพักอาศัยชั้นแรก การออกแบบให้ลิฟต์อยู่ตรงใจกลางแบบทำให้ห้องพักอาศัย โอบล้อมจะห้องพักจะได้วิวรอบด้าน ที่ชั้นนี้มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 11 ยูนิต โดยจะเป็นแบบ Hybrid Ceiling ที่สูง 4.7 เมตร แต่จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสวนอยู่ด้านนอกฝั่งด้านหน้าอาคารด้วย โดยจะจัดเป็นสวนที่เลือกพันธุ์ไม้เป็นสมุนไพรต่างๆนาๆ มาไว้ในพื้นที่นี้

ขึ้นมาที่ชั้น 10-18 ก่อนอื่นให้เราสังเกตบริเวณช่อง X ผืนผ้าที่จะมีอยู่ 4 มุม (นั่นคือช่อง Void ที่เจาะอาคารแนวตั้งไว้) ช่วยในเรื่องของ Ventilation Airflow ทางระบายลมที่กล่าวไว้ตอนต้นครับ ในชั้นนี้จะเป็นส่วนที่มีห้องพักอาศัยเยอะที่สุดคือ 13 Unit/Floor แต่ยังเป็นรูปแบบ Hybrid Ceiling 4.7 m. โดยจะมีห้องพักอาศัยเป็น Studio และ 1 Bedroom

ชั้น 19-28 จะเปลี่ยนเป็นส่วนของห้องแบบ Simplex Ceiling Height Approx. 3 m. มีห้องพักแบบ 1 Bedroom, 2 Bedrooms มีจำนวนห้องพัก 10 Unit/Floor

 

ชั้น 29-32 จะเป็นห้องเพดานสูงพิเศษอย่าง Duplex ที่สูงถึง 5.6 m. โดยจะมีห้องแบบ 2 Bedrooms, 3 Bedrooms และชั้นนี้ห้องพักลดลงเหลือ 7 Unit/Floor

ชั้น 33 ยังคงเป็นห้องแบบ Duplex เหมือนกัน แต่มีห้องพักอาศัยแค่ 3 Unit/Floor เท่านั้น เพราะฝั่งด้านหน้าจะเป็นส่วนของห้องงานระบบสระว่ายน้ำที่ชั้นบนนั่นเอง

ชั้น 34 เป็นชั้น Highlight Facility เริ่มจากในตัวอาคารก่อนประกอบไปด้วย Sky GYM แบบ Double Height Ceiling / Steam room / Sky Lounge / SkyDeck / Children’s Pool / Jacuzzi และสุดท้าย Infinity Edge Pool ที่ชม City View มีความยาวถึง 25 เมตร

ชั้น 35-36 จะเป็นส่วนห้องพักพิเศษที่เรียกว่า Duplex Penthouse ที่มีความสูงถึง 5 เมตรครับ มีจำนวน 4 Unit/Floor

 

และห้องพักอาศัยชั้นสุดท้ายอยู่ที่ชั้น 37 เป็นห้องขนาดพิเศษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ แบบ P3A เป็น Penthouse ที่มีราคาสูงสุดด้วยเช่นกัน

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Garden entrance driveway
  • Sheltered vehicle drop-off area
  • Double-height forecourt and double-height lobby
  • Ground floor aroma garden* with pavilion
  • Children’s playground in garden
  • Study room with garden view
  • Residence herb* garden on the 9th floor with brick screen pavilion
  • Double-height sky gym with panoramic city views
  • Children’s pool and in-pool Jacuzzi
  • 25 m. swimming pool, infinity edge and panoramic city views
  • All pools come with a purified water filtration system
  • Sky deck with panoramic city views
  • Sky lounge with island pantry*
  • Individual male and female steam rooms
  • 24-hour security monitoring system (CCTV) with access card
  • Floor specific access card system
  • Wi-Fi in lobby and swimming pool areas
  • Passenger Lift 3 / Service Lift 1
  • Lift Ratio 89 : 1
  • Car Parking 204 Slot total 76%
  • CCTV / Access Card / Security 24 hrs

Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างแรกที่จะพาไปชม คือแบบ L1A : 1 Bedroom High Ceiling Hybrid(Loft) เพดานสูง 4.70 เมตร ขนาด 34 ตร.ม. | โดยฟังก์ชันชั้นล่าง เปิดเข้ามาจะเจอกับห้องน้ำก่อน แล่วค่อยขยายพื้นที่ออกไปเป็นส่วนรับประทานอาหาร ครัวเปิด พื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกัน ความพิเศษของห้องนี้คือความสูงโปร่งของฝ้าเพดานที่สูง 4.7 เมตร ที่ห้องรับแขก และด้านนอกมีทางออกไประเบียง(มีโซนเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์แยกไว้) ที่ชั้นบนเป็นส่วนของห้องนอน พร้อมพื้นที่ด้านข้างทำเป็นมุมโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้า (ข้อเสียอีกอย่างคือถ้ากลางคืนอยากเข้าห้องน้ำต้องขึ้นลงบันไดทุกครั้ง)

หน้าตาของชุดบานประตูที่ได้ เป็นบานไม้โทนสีอ่อน , Digital Door Lock ที่โครงการให้เป็นมาตรฐานทุกห้อง ยี่ห้อ igloohome

ส่วนของพื้นในห้องที่เริ่มจากเป็นกระเบื้อง ลายไม้ โทนสีสว่าง / ห้องนี้จะแต่งตามแบบ PRIME ที่เราดูวัสดุไปก่อนหน้านี้เป็นส่วนของห้องแบบ Hybrid Ceiling ที่เน้นความสดใส สว่าง โดยเน้นความรู้สึกที่ดูเบา สบาย ด้วยวัสดุที่ใช้เป็นไม้และอิฐ เน้นโทนสีขาวแลดูสว่าง สะอาด และสบายตา

เข้ามาเราจะเห็นส่วนของทางเดินตรงหน้า ตรงนี้ความสูง 2.3 เมตร และซ้ายมือเป็นส่วนของประตูทางเข้าห้องน้ำ

ในพื้นที่ห้องน้ำ ความสูงเสมอกับระดับในห้อง แต่วัสดุปูพื้นยังคงเป็นกระเบื้องลายไม้สีอ่อนแบบเดียวกัน ทำให้การใช้งานทำความสะอาดง่าย ทนต่อการเปียก และได้สัมผัสการเดินเข้าออกแบบต่อเนื่องไม่สะดุด / ภายในห้องน้ำแยกเป็นโซนส่วนแห้งและเปียก

ผนังซ้ายมือมีการติดกระจกเงาแผ่นใหญ่เต็มบาน พร้อมซ่อนไฟหลือบเอาไว้ให้เลย

ด้านหลังของกระจก บานเหนืออ่างล้างมือ สามารถเปิดออกทำเป็นชั้นเก็บของใช้ต่างๆเอาไว้ให้แล้ว

วัสดุในห้องน้ำต่างทั้งหมด จะได้เป็นของ KASCH ทั้งชุดอ่าง ก๊อกน้ำ (มีตู้ใตอ่างให้ด้วย)

ถัดไปเป็นพื้นที่แยกส่วนเปียก สำหรับอาบน้ำ โดยจะได้กระจกนิรภัยเป็นฉากกั้น พื้นที่อาบน้ำกำลังดีขนาด 0.9 x 1.25 เมตร

หน้าตาของชุดฝักบัวและ Rain Shower / ที่ผนังด้านหลังมีการเจาะรูเซาะร่องเอาไว้ให้สำหรับเป็นชั้นวางของ

ออกมาสู่พื้นที่ใจกลางห้องกัน เราจะเห็นโซนรับประทานอาหาร ครัวเปิด และพื้นที่นั่งเล่นอยู่เชื่อมต่อกันแบบนี้ พื้นที่ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานจะขยายจาก 2.3 เมตร กลายเป็น 4.7 เมตรเลย

โซนรับประทานอาหารจัดเอาโต๊ะแบบ 2-3 ที่นั่งมาเข้ามุมทางขวามือแบบนี้ สามารถหาเชลฟ์วางของ โคมไฟ มาช่วยตกแต่งมุมนี้ให้ดูน่านั่งขึ้นก็ได้

หันไปมองทางซ้าย จะเป็นส่วนของของครัวเปิด ที่ได้การ Built-In ตู้แบบนี้ทั้งหมดเลยนะครับ เป็น Pantry ตัว L เข้ามุม สิ่งที่ไม่ได้อย่างเดียวในนี้คือ ตู้เย็นนั่นเอง

ลองเปิดหน้าบานตู้ให้ดู ด้านในสามารถจัดเก็บของเป็นชั้นได้เยอะทีเดียว

ส่วนของท็อปครัว และผนังด้านข้างจะเป็นวัสดุแบบเดียวกัน คือ GEOLUXE รุ่น Eramo ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ SCG ที่แทบไม่เห็นรอยต่อเลย ที่ได้แรงบันดาลใจจากหินธรรมชาติของแคนาดา

หน้าตาของ Sink แบบหลุมสแตนเลสดูดี แต่ขนาดเล็กหน่อย

ชุด Hob&Hood ที่ได้แบบแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว ของ SMEG

ที่ชุดตู้ด้านล่าง ติดกับตู้เย็นจะมีหน้าบานปิดเอาไว้ ซึ่งพอเปิดออกดูพบว่าเค้าทำเป็นที่ปิดเครื่องซักผ้าไว้เลย แสดงว่าตัว Pantry นี้ต้องมีความลึกระดับนึงเลย เพราะปกติที่เราเห็นหลายๆห้องตัวอย่าง เครื่องซักผ้าจะล้นๆปริ่มออกมาดูเกะกะตา

ต่อเนื่องมาจากครัว จะเป็นพื้นที่เล็กๆใต้บันได ซึ่งไม่ได้เป็นตำแหน่งวางทีวีนะครับ เพราะอยู่เยื้องกับโซฟามากเกินไป

มาดูส่วนของ Living Area ชัดๆ หน้าต่างช่องแสง หน้าต่างอลูมิเนียมสีดำบานใหญ่สูง เป็นกระจก laminated glass หรือกระจกตัดแสง สามารถป้องกันความร้อนและเสียงจากภายนอกได้ ด้วยขนาดและความสูงของกระจกจึงรับแสงได้ดี ตอนกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟแค่เปิดม่านก็สว่างทั่วห้อง

ทางขวามือเป็นพื้นที่ทางออกไปยังระเบียง พื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้างทีเดียวสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor หรือเป็นมุมสวนกระถางก็ดี มีตัวกันตกอีกชั้นที่ได้เป็นกระจกนิรภัยพร้อมเฟรมอลูมิเนียมดูหนาแข็งแรงอีกชั้น

ที่สุดมุมระเบียงจะเป็นส่วนของพื้นที่ห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์เอาไว้ให้ แบบนี้ ซึ่งมีประตูเหล็กโปร่งปิดไว้เป็นสัดส่วน ตรงนี้ผมขอแนะนำว่า ถ้าใครอยากได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม จ้างช่างแอร์เค้ามาติดแบบแขวนผนังไว้ด้านบนก็ได้นะครับ

นี่ครับ ลองเปิดพื้นที่วางออกให้ดู ถ้าเราย้ายมันไปไว้ด้านบนติดผนัง นี่เราจะได้พื้นใช้สอยบริเวณระเบียงมุมนี้เพิ่มขึ้นฟรีๆเลยล่ะ

ยืนจากระเบียงมองมาในห้อง เราจะเห็นส่วนของบันไดทางขึ้นไปชั้นบน ส่วนพื้นที่ห้องนอน มุมนี้สวยจริงให้ความรู้สึกสูงโปร่งเวลาอยู่ในห้อง

หน้าตาตัวบันไดที่ถูกวางชิดผนังไว้เป็นโครงเหล็ก พร้อมราวจับกันตก

ตัวพื้นเป็นไม้ประสานสำเร็จรูป ความกว้างประมาณ 90 ซม.

ขึ้นมาที่ชั้นบน ตัวโครงเหล็กกันตกทำหน้าที่ยาวต่อเนื่องมากันพื้นที่นี้ด้วยสูงราวๆ 1.1  เมตร ตัวพื้นของชั้นบนถูกเปลี่ยนไปเป็นพื้นลามิเนตลายไม้สีสว่างคล้ายๆกับกระเบื้องลายไม้ชั้นล่าง

พื้นที่ด้านบนจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางพื้นที่ โดยยังมีพื้นที่ทางเดินเหลือรอบด้านทุกฝั่ง

ทางเดินปลายเตียงเดินต่อไปยังส่วนของตู้เสื้อผ้า Built-In อีกฝั่งที่โครงการทำมาให้มาตรฐาน หน้าบานเป็นกระจกชาดำพร้อมติดตังไฟไว้ให้ด้านใน

เจาะลึกรวบยอด

ทำเล ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนประมวญ(ระหว่างถนนสีลมกับถนนสาทร) จะอยู่มาทางแยก สีลม-นราธิวาส ลงมาถึงโซนบางรักโดยริมถนนทั้งสองฝั่งบริเวณนี้ ส่วนใหญ่จะเป็น Office Building, โรงแรม 3-5 ดาว, อาคารพาณิชย์ อาคารพักอาศัย และมีแหล่งชอปปิ้งเล็กๆน้อยๆ อย่าง Silom Villege, Silom Plaza และ Villa Market แต่จะไม่คึกคักและหนาแน่นมากเท่ากับโซนสีลมไปทางศาลาแดง จุดด้อยของถนนประมวญนั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องของวันเวย์ถึงแม้จะเฉพาะเวลาเข้า-เลิกเรียน และมีจำนวนปริมาณรถรับส่งผ่านเข้ามามหาศาลเพราะโรงเรียนดัง 2 แห่ง แต่กลับกันถ้าใครเป็นนั้นต้องการอยู่อาศัยใกล้ร.ร.กับลูกตัดปัญหาเรื่องเวลาจะรับส่งที่เสียไปต่อวันจะทำให้กลายเป็นจุดดีพลิกไปในตัวได้เลย หรือถ้าใครถ้างานในพื้นที่ใกล้ๆอาทิเช่นโรงแรมย่านนี้ ตึกเอ็มไพรส์ฯ สาทรสแควร์ แล้ววนลูปกลับมาที่เส้นสีลมก็ถือว่าดีเช่นกัน อีกทั้งระยะการเดินไปใช้รถไฟฟ้าเพียง 430 เมตร เลยถือว่าโครงการนี้เป็นทำเลเฉพาะตัวสูงที่คาดว่ามีกลุ่มคนไม่น้อยที่น่าจะสนใจอยู่เหมือนกัน

การเดินทางโดยใช้รถ ถนนหนทางที่สีลม – สาทร จะมีลักษณะเป็นเหมือนตารางที่มีทางเชื่อมต่อหากันได้ เส้นทางลัดเลาะพวกนี้จะช่วยในการหลีกหนีรถติดได้ระดับนึง อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช(ตรงสุรวงศ์) หรือไม่ก็ไปทางด่วนพระราม 4(แยกคลองเตย)ได้อีกด้วย โครงการนี้อยู่ในทำเลธุรกิจหลักของกรุงเทพเลยก็ว่าได้ถูกขนาบด้วยถนนสายสำคัญถึง 2 เส้น อย่างถนน สีลมและสาทร ถึงแม้ตัวโครงการจะไม่ได้อยู่ติดถนนสายหลักแต่ตำแหน่งที่ตั้งก็อยู่เกือบปากซอยถนนสีลมไม่ถึงร้อยเมตร และห่างจาก BTS สุรศักดิ์ แค่ 430 เมตร เดินได้สบายๆ แต่ทำเลนี้ก็แลกมาด้วยการจราจรที่ติดขัดอย่างมากเพราะดันอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชื่อดัง 2 แห่ง (ใกล้แบบระยะประชิดเลยครับ) อย่างอัสสัมชัญคอนเวนต์สีลม และ กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยทำให้ช่วงเวลาเปิดเทอมถนนในบริเวณจะเป็นอัมพาตกันบ่อยครั้ง แต่ถ้าใครที่คิดอยากอยู่กับลูกใกล้ๆโรงเรียนโดยตัดเรื่องเวลาเดินทางรับส่งออกไปนั้นจะกลายเป็นจุดแข็งของทำเลโครงการนี้ไปทันที

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ในย่านนี้เป็นที่นิยมมากกว่ารถยนต์ส่วนตัวแน่นอน ซึ่งสามารถเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดได้ดีทีเดียว ย่านสีลม-สาทร มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนวิ่งผ่าน ถึง 3 สถานีได้แก่ สุรศักดิ์ ช่องนนทรี และศาลาแดง(ยังเป็น Interchange กับ MRT สีลมด้วย) ส่วนของ BRT สถานีสาทรที่เกือบจะได้ยกเลิกไปแล้ว ปัจจุบันได้เดินหน้าต่อหลังจากเสียงโหวตจากประชาชน ที่ยังใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง ช่วยในเรื่องความสะดวกในการเดินทางเข้าสู่สาทรมาทำงาน และสุดท้ายบริเวณท่าเรือสาทร ก็เชื่อมต่อกับ BTS สายสีเขียวสถานีตากสินอีก แต่ถ้าเราดูจากในแผนที่ผมลองวัดด้วย Google Maps แล้วระยะทางเดินไปอยู่ที่ประมาณ 430 เมตร (สถานีสุรศักดิ์) ถือว่าเดินได้สบายครับ

วัสดุ ของที่นี่ถือว่าให้มาเกรดธรรมดานะครับ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย ซึ่งพวกพื้น ผนัง ท๊อปต่างๆจะเน้นไปที่กระเบื้องลายหิน ลายไม้ ตัวพื้นห้องนอนยังมีส่วนของลามิเนตอยู่ด้วย(แต่งานของห้องตัวอย่างเนี๊ยบมากๆขอชมเลย) ซึ่งของพวกนี้ทำความเข้าใจว่าเราสามารถเปลี่ยนหรือเพิ่มมันเองได้ในอนาคต แต่โครงการให้สิ่งที่มีราคาสูงมาในตัวเองอยู่แล้วนั่นคือ Space ของความสูงโปร่ง หรือ ปริมาตรนั่นเองที่ทำยังไงเราก็ไม่สามารถเพิ่มได้ในห้อง ความคุ้มค่าของห้องเลยอยู่ที่พื้นที่มากกว่าครับ

การออกแบบ แบบของโครงการนี้ ภายนอกหน้าตาดูเป็นแบบ Modern ร่วมสมัย แต่ฝังความเป็น Loft ด้วยวัสดุการตกแต่งที่ยังคงความเนี๊ยบของ Raimon Land เช่นเคย ที่นี่ถือว่ายูนิตไม่เยอะนะ เน้นให้มีห้องพักอาศัยล้อมรอบตัวลิฟต์ใจกลางอาคาร ที่สำคัญมีการออกแบบตัวอาคารให้มีเรื่องของ Ventilation Airflow ช่วยในเรื่องของทางเดินลมภายในอาคารและได้ในระเบียงห้องพักอาศัยด้วย / ตัวแบบห้องนั้นเน้นไปที่การอยู่อาศัยจริง มีพื้นที่เริ่มต้นเยอะหน่อย โดยคอนเซปท์อยากให้เป็นบ้านหลังที่สองที่อยู่ได้โดยไม่อึดอัด และมีตัวเลือกของห้องที่เป็นเพดานสูงหลายแบบ คงถูกใจคนชอบห้องเพดานสูงทีเดียว

สาธารณูปโภค เทียบกับจำนวนลูกบ้าน 268 ยูนิต ถือว่าเยอะพอสมควรนะ แต่ว่าเมื่อเราแชร์การใช้งานน้อยสิ่งที่แลกมาก็คือค่าส่วนกลางที่สูงขึ้นตามด้วย ( 90 บาท/ตร.ม.) เริ่มจากพื้นที่สีเขียวที่จัดสวนไว้ชั้นล่างและชั้น 9 ในตัวอาคารให้ความสำคัญของหน้าตา Lobby แบบเพดานสูงเช่นกัน Main Facility จะไปไว้ที่ชั้น 34 ได้แก่ Infinity Edge Pool / Jacuzzi / Sky GYM / Sky Lounge / Sky Deck / Steam ดูแล้วน่าใช้งานทุกส่วนเลย

 

 

ขอขอบคุณข้อมูล
Content Editor : Pongpon V. 
Thinkofliving.com